- formatting
- images
- links
- math
- code
- blockquotes
- external-services
•
•
•
•
•
•
-
#นศภAndTheWard ตอน #มาม่าวันแม่ (1/3)
#นศภAndTheWard ตอน #มาม่าวันแม่
เนื่องในโอกาสวันแม่ ข้า(พเจ้า)จะนำเสนอมุมมองของ นศภ.ที่มีต่อผู้ป่วยซึ่งมียศศักดิ์ในครอบครัวว่า"แม่"...เรื่องดราม่ามีมากมายฮ่ะ เล่าเป็น case ไปแล้วกัน...เรื่อง... แม่ ลูก ผูกพันธ์กับ ถุงลมโป่งพอง(COPD)
Pt ญ อายุประมาณ 60 กว่า รายหนึ่งนอน รพ อาการหอบเหนื่อย เพราะเป็นโป่งพองมานาน 10 ปี ที่ต้องนอน รพ เพราะหายใจหอบเหนื่อด้วยโรคกำเริบ พ่นยา(แบบครอบจมูกอ่ะ nebulizer) ใส่สายให้ออกซิเจนแบบเสียบจมูก(O2 cannular) หายใจหอบเหนี่อยดูประวัติไม่สูบบุหรี่ ไม่มีอะไรที่เสี่ยงเลย แต่....ประวัติอย่างหนึ่งคือ "ลูกชายสูบบุหรี่ในบ้านทุกวันมาเป็นสิบๆปี" #จบข่าว นศภ. ตามชาทแล้วเงิบ ป้าทั้งหอบ ทั้งไอ น่าสงสารเรื่อง....ยาแม่แก่ใครจะดูแล
case หลาย case ใน ward เป็น ญ สูงอายุ(แบบสูงมาก 70 80 กว่า) พอหมอราวน์ถามว่า "ยายยยยยยย.....ใครเอายาให้ยายกิน" (เสียงอาจารย์หมอลอยเข้ามาในหูขณะพิมพ์เลย ฮึ๋ยยย) เงียบ คนเฝ้าไข้ตอบไม่ถูก โยนไปให้ลูกคนโน่นที คนนี้ที ยายบางคนขาดยาเป็นปีๆ บางคนไม่เคยตรวจสุขภาพเลย โรคเงียบเพียบ ทั้งเบาหวาน ความดัน ไขมัน วันนี้มาด้วยสมองขาดเลือด(Stroke) ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง บางคนนอนใส่เครื่องช่วยหายใจ (ET tube) สายพะรุงพะรัง บางคนถึงขั้นต้องให้อาหารทางสายยาง(NG tube) ดูมันเจ็บและทรมานมากอ่ะ มันเจ็บจนคนไข้หลายคนพยายามดึงออก T____T ราวน์ที่น้ำตาจิไหล มาม่าเยอะไป ไวไวควิก ไม่มีเลยเจอเรื่องชั่วร้ายมาเยอะ มาดูเรื่องดีดีบ้าง
ลูกที่น่ารักก็มีเยอะ และแม่ที่น่ารักก็มีเยอะ ใน ward มีคนไข้ก็ต้องมีคนดูแล รพ รัฐที่น้อยนัก คนไข้เองก็แทบจะขี่คอกันนอน รพ แต่กระนั้นก็มีคนไข้เฝ้าอยู่ร่ำไป แล้วคนเฝ้านอนที่ไหน...ตามทางเดิน ปูเสื่อ กางมุ้ง บางคนนอนใต้เตียงคนไข้ บางคนฟุบบนเตียง ป้อนข้าว ป้อนยา เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า หลายเตียงที่แม่มาเฝ้าลูกทุกวัน ไปward กี่ทีเจอตลอด และเจอบ่อยเหมือนกันที่ลูกมาเฝ้าแม่ ตั้งแต่เด็กอนุบาลตัวน้อยๆแอบไปนั่งบนเตียงกับแม่ ไปจนถึงลูกๆวัยผู้ใหญ่ แม่บางคนอ้อนวอนหมอเพื่อจะขอกลับบ้านพร้อมน้ำตาคลอเบ้าด้วยเหตุผลที่ว่า "ลูกที่มาเฝ้าหนูจะกินอะไรหล่ะหมอ" ข้าพเจ้านึกไม่ออกว่าจะกลับบ้านได้ยังไง อาการไม่ใช่น้อยๆเลย (Problem list มาเป็นทาง) แถม ญ ผอมแห้งคนนี้ยังมาพร้อมกับโรคประจำตัวที่คาดไม่ถึง ป้องกันไม่ได้ เพราะสาเหตุยังไม่รู้เลย...CA brain หรือมะเร็งสมอง แน่นอนว่าเมื่อศูนย์บังคับบัญชารวน ทุกระบบในร่างกายก็พลอยวุ่นไปด้วย....เรื่อง #มาม่าวันแม่ ในโรงพยาบาล คงจบแค่นั้น ...ราวน์ไปน้ำตาจะไหลทั้งซึ้ง ทั้งสงสาร...เรื่องมาม่าเกี่ยวกับแม่ในร้านยาก็มีอยู่เหมือนกัน ประโยคเด็ด หึหึ "ยังไงก็ขายให้ไม่ได้ค่ะ พี่พาแม่ไป รพ ดีกว่านะคะ" "เค้าเป็นเลือดเนื้อของพี่นะ พี่จะทำเค้าได้ลงเหรอ" เงิบซะทั้ง นศภ. ทั้งพี่เภสัชแหล่งฝึกมามีสาระสักนิด ...เมื่อไหร่ที่ควรตรวจสุขภาพ...
โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าอายุ 40 ปี ขึ้นไปก็ควรไปตรวจได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคพวกนี้ภัยเงียบพาลจะล้มหมอนนอนเสื่อ เอาได้ง่ายสำคัญเพศ ญ โรคที่ยอดฮิตคือ มะเร็งเต้านม อันนี้ตรวจเองได้ อีกโรคคือมะเร็งปากมดลูก ควรตรวจตั้งแต่อายุ 35 ปี นะจ๊ะ...ข้อมูลการตรวจและคัดกรองความเสี่ยงลองหาใน Internet โดยใช้คำค้นว่า "คัดกรอง เบาหวาน" "คัดกรอง ความดันโลหิตสูง"#จบข่าว ก็ข้าอยู่ ward สตรีนี่นา กิกิติดตามงานเขียนเมาๆ โดย นศภ.รั่วๆ ได้ตาม hashtag #นศภAndTheWardเขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2015 -
ช่วงรอยต่อก่อนจะเรียนต่อปริญญาเอก📚
ช่วงรอยต่อก่อนจะเรียนต่อปริญญาเอก📚
ระยะเวลา 1 ปีกว่าๆ ที่ตัดสินใจจะทำงานก่อนเรียนต่อ ทั้งเพื่อรอทุนเรียน และจัดการเรื่องที่บ้านให้ลงตัว- ตัวเอง ทุนเรียนค่อนข้างเรียบร้อย การสอบเข้าผ่านไปด้วยดี มีเงินเก็บสำรองแม้จะไม่มากเพราะนอกจากเรียนก็ต้องมีส่วนที่ใช้ในครอบครัว ถ้าไม่ทำงานก่อนคงจอดไม่ต้องแจว เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินการ สอบ ฯลฯ ก็เยอะอยู่
- ได้ลองหาอาชีพเสริมเผื่อไว้ทำตอนเรียน ลองขายของใน ebay ig และก็ศึกษาเรื่องผู้แนะนำการลงทุน คงจะดีถ้าดูแลเงินอันน้อยนิดของตัวเองได้มีประโยชน์สูงสุด และคงดีด้วยถ้าแนะนำเพื่อนในก๊วนได้ด้วย ใครจะใช้บริการก็บอกได้ค้าบ ช่วงทำงานพยามไม่ใช้ชีวิตหวือหวา ไม่กล้ากินอะไรแพงๆ ใช้อะไรเว่อร์ๆ จะซื้อบ้างก็ของที่อยากได้มานานชิ้นสองชิ้น กลัวชีวิตติดหรูเดี๋ยวจะลำบากตอนเรียน 5555+ ความป่วยเยอะอยู่เพราะติดหวัดบ่อยมากจากร้านยา แต่มันก็ทำให้เรารู้จักจัดการกับความคาดหวัง บางทีมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้แล้วแต่ช่วงจริงๆ ถ้าป่วยก็ต้องพักจะซ่าก็ไม่ควร แฮร่ๆ><
- น้องสาว ตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อนนางในช่วงวิกฤตสอบเข้ามหาลัย ให้นางได้เห็นหน้าตอนตกมัน ช่วยตัดสินใจในบางเรื่อง เตรียมของ เตรียมตัวเข้าเรียน นางก็ได้คณะแพทย์สมใจอยาก และแอบป้ายยานางมาวิ่ง หวังจะเป็นสิ่งคลายเครียด(stress management) ของนางตอนเรียน
- น้องชาย นางเป็นเด็กพิเศษ ก็พยายามพาไปหาหมอ ทำกายภาพ ดีใจที่ปั่นจักรยานแบบล็อคเท้าได้ผล แถมน้องชอบด้วย พยายามพาออกที่สาธารณะมากขึ้น ทั้งห้าง สวนสาธารณะมันก็ได้บ้างล่มบ้าง แต่ที่ชอบและบ่นถึงเสมอคือวัดที่เชียงใหม่ เราลุ้นกันทั้งบ้านว่าการขึ้นเครื่องจะมีปัญหามั้ยปรากฏว่าทำตาหวานใส่แอร์ตลอด 5555+ ผ่านฉลุย ไว้จะเก็บตังค์ให้ไปเที่ยวอีกนะ
- ป๊า พยายามเรื่องสุขภาพกันมาตลอด จักรยานที่ทำราวตากผ้ามา 3-4 ปี กับน้ำสะสมที่พุ่งตลอด วันนึงถึงกับเตี๊ยมกับหมอ แล้วป๊าก็ยอมเปลี่ยนพฤติกรรม ดีใจมากเว่อร์ น้ำตาลสะสมก็ลด แถมคึกทั้งวิ่งทั้งปั่น(แบบค่อยเป็นค่อยไป)่
- หม่าม๊า ได้เงินเดือนแรกก็ซื้อของที่ม๊าอยากได้ที่สุด(คืออะไรไปถามเอาเอง 555+ ใบ้ว่าใช้ทุกวันและคงกระพันแสนนาน) จัดการตรวจสุขภาพที่เสี่ยงทุกชนิดทั้ง pap smear, ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ จักรยานพร้อมหมวกเตรียมไว้ให้ และที่สำคัญคือหนี้สิน อะไรที่ดอกเบี้ยสูงๆก็กู้ใหม่มาปิดให้ เอาจริงไม่อายเลยที่มาเล่าเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ทุกครอบครัวจะพร้อมตั้งแต่ต้น ค่าใช้จ่ายที่แต่จะคนจะโตจนจบมาทำงานก็ไม่นิดๆ ถ้าวัยเรียนคนไหนผ่านมาอ่าน ตั้งใจเรียนและประหยัดไว้นะคะ บางทีพ่อแม่อาจจะไม่เคยคุยเรื่องหนี้สินเพื่อให้เราสบายใจ
- ก๋ง อาม่า ได้รับปริญญาสมใจแล้วนะ 5555+ ทิพย์กำลังพยายามในสิ่งที่ก๋ง อาม่าอยากได้มากที่สุดในรอบปีสองปีนี้ จะสำเร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ได้พยายามเต็มที่และจะทำต่อไปฮ่ะ ^^
--- ดูเป็น 1 ปีกว่าที่คุ้มค่านะ ---กลับเข้าสู่โหมดนักเรียน พร้อมๆกับโหมดประหยัดตังค์ ><่เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2018 -
☎️แนะนำการติดต่ออาจารย์ งานวิชาการชั้นปีและการทำหน้าที่ ☎️
แนะนำการติดต่ออาจารย์ งานวิชาการชั้นปีและการทำหน้าที่
***การติดต่ออาจารย์ (ตามแนวทางตัวเองนะ)
...ที่จริงแล้วเรื่องนี้แล้วแต่อาจารย์แต่ละท่าน ว่าจะสไตล์ไหน หรือ strict ในการติดต่อแค่ไหน วิธีที่จะเขียนต่อไปนี้โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นวิธีที่จะ safe ตัวผู้ที่ติดต่อเองมากที่สุด...- นัดอาจารย์ล่วงหน้าก่อนจะไปพบ วิธีการนัดที่แนะนำได้แก่ นัดกับอาจารย์เอง, นัดโดยโทรนัดผ่านโทรศัพท์ภายใน(คือโทรศัพท์ที่ทำงานอ่ะไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ), นัดผ่าน e-mail
- การติดต่ออาจารย์ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ ควรจะได้เบอร์มือถือมาโดยขอจากอาจารย์เอง หรือถ้าขอจากคนอื่นควรแน่ใจก่อนว่าอาจารย์ยินดีจะให้ติดต่อโดยช่องทางนี้
- ควรติดต่ออาจารย์ในเวลาราชการ ไม่ว่าจะโทรหรือไปพบ โดยเวลาว่างของอาจารย์แต่ละท่านมักจะมีในเว็บไซต์ของมหาลัย- ถ้า ม.วลัยลักษณ์ ก็ link นี้ : http://202.28.69.99/registrar/teach_time.asp?avs145450732=1
- การโทรติดต่ออาจารย์ ควรจะบอกชื่อ นศ.ที่ติดต่อ และเรื่องที่จะติดต่อก่อน เช่น
“สวัสดีค่ะอาจารย์....ไหมคะ ไม่ทราบอาจารย์สะดวกคุยไหมคะ หนู นศภ.งามฟรุ้งฟริ้ง กุ๊งกิ๊งสุดสุด นศภ.ชั้นที่ 4 ขอต่อติดอาจารย์เรื่อง............” - วิธีที่อาจารย์หลายท่านสะดวกที่สุดอาจจะเป็น e-mail เช่นอาจารย์ที่ยุ่งมากๆ อาจารย์ผู้ใหญ่ อาจารย์ในสถาบันวิจัย อาจารย์ที่ต้องติดต่อด้วยความสุภาพอย่างสูง การหา mail อาจารย์ก็หาได้จากเว็บมหาลัย- สำหรับ ม.วลัยลักษณ์ link นี้ http://202.28.68.27/wpd/source/person1.php
- การติดต่อทาง e-mail ก็คล้ายๆกันโทรศัพท์ แต่อาจจะมีรูปแบบนิดนึงเพื่อการอ่านงานและเป็นทางการหน่อย เช่นมี เรียน อาจารย์..... ,เรื่องที่ติดต่อ, คำลงท้าย อาจจะมี signature ของผู้ส่งที่มีเบอร์โทรติดต่อกลับไว้ด้วย ถ้าจะให้เจ๋งหน่อย signature เป็นภาษาอังกฤษก็จะดี เผื่อติดต่อต่างประเทศ 555
- เนื้อหาการเขียน mail ก็แล้วแต่วาทะศิลป์แต่ละคน ประมาณนั้น อันนี้เดี๋ยวจะแนบรูปให้ดูอีกครั้งหนึ่ง
- แต่การติดต่อผ่าน e-mail มหาลัยบางทีก็กลัวส่งไปไม่ถึง(เคยเจอมาแล้ว) โดยทั่วไปอาจจะรู้ได้จากการที่ไม่มี e-mail เด้งกลับมา(บางที mail มหาลัยก็แปลกๆ ไม่มีเด้งกลับแต่ก็ส่งไม่ถึง) เพราะงั้นเห็นว่าติดต่อไปนานแล้ว หรือเจอตัวอาจารย์ก็ถามซะหน่อยว่า “อาจารย์ได้รับ e-mail หนูแล้วยังคะ” อย่างไรก็ตามควรเผื่อเวลาสำหรับติดต่อทางช่องทางนี้ไว้ด้วย
☎️ งานวิชาการชั้นปี
- ตำแหน่งวิชาการชั้นปี คือ นศ.ที่เป็นตัวแทน นศ.ในชั้นปีเพื่อติดต่อประสานงานระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ เพื่อประโยชน์ในของรายวิชาต่างๆ
- หน้าที่โดยทั่วไป
- ติดต่อเมื่อเวลาเรียนหรือเวลาสอบมีปัญหา เช่น ขอเลื่อนสอบเมื่อตารางสอบชนกันอย่างจัง ซึ่งดูแล้วไม่น่าอ่านหนังสือทันแน่ๆ
- เป็นปฏิทินชั้นปีจำเป็น ควรมีปฏิทินที่ update การเลื่อนเรียนติดตัวอยู่เสมอ ถ้าอาจารย์ เพื่อน หรือ พี่ TA ถามต้องตอบได้
- ดูแลอาจารย์พิเศษ ตั้งแต่รับอาจารย์ ขอบคุณอาจารย์ ไปจนกระทั่งรอส่งอาจารย์กลับ
- จัดหาหน้าม้าตั้งคำถามในคาบเรียนของอาจารย์พิเศษ หรือถ้าหาไม่ได้ก็ต้องเป็นหน้าม้าเอง แฮะๆ
- ดูเรื่องลงทะเบียนเรียน อาจจะตามจิกบ้างกรณีวันสุดท้ายแล้วนางยังไม่ลง อันนี้จะมีวิธีเช็คได้โดยเปิด ces กดค้นหารายวิชา แล้วก็ดูว่าลงครบจำนวนคนมั้ย (มันมีคนลืมทุกเทอมเหอะ)
- ดูประกาศเรื่องประเมินอาจารย์ ถ้าไม่ประเมินปัญหาเรื่องการดูเกรดจะตามมา (แต่ก็มีคนลืมทุกเทอมเช่นกัน แฮะๆ)
- นอกนั้นก็ช่วยเพื่อนที่ต้องการความช่วยเหลือในการติดต่ออาจารย์เป็นกรณีไป
3. คุณสมบัติ- พูดกับเพื่อนและอาจารย์รู้เรื่อง มีวาทะศิลป์ และศิลปะในการอ้อนวอนจะดีมาก 55555
- สิงสถิตอยู่ที่คณะได้บ่อย และบางครั้งเป็นเวลานาน
☎️ การดูแลอาจารย์พิเศษ- รับอาจารย์ : อันนี้ควรรู้ก่อนว่าอาจารย์เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หารูปอาจารย์ในเน็ตสักนิดนึง คือบางทีอาจารย์พิเศษก็ลงจากรถมหาลัยกันทั้งนั้นเดี๋ยวจะไปรับอาจารย์ผิดท่าน (อันนี้เกือบจะเกิดขึ้นจริง 5555)
- ระหว่างพักเช่นพักเที่ยง ก็ดูแลและรอจนกว่าจะมีอาจารย์จากคณะมารับอาจารย์ไปทานข้าว
- หาหน้าม้ามาตั้งคำถาม
- ขอบคุณอาจารย์พิเศษ หรืออาจจะหาเพื่อนที่แลดูดีในชั้นปีแล้วทาบทามนางมาพูดขอบคุณให้แทน
- รอส่งอาจารย์ ช่วยถือของไรงี้
...ทั้งหมดที่เขียนมาคือตามแนวทางที่ตัวเองเคยทำมาเท่านั้น มันจะอาจจะผิด, ไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกสไตล์ของอาจารย์บางท่านก็เป็นได้...นศภ.กฤชติยาภรณ์ คงธนะวานิชเภสัชศาสตร์รุ่นที่ ๕ ม.วลัยลักษณ์เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2014 -
เหรียญรางวัลโอลิมปิกในสงครามต่อสู้กับมะเร็ง🎗️
เหรียญรางวัลโอลิมปิกในสงครามต่อสู้กับมะเร็ง
เหรียญโอลิมปิกไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของชัยชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของธาตุที่กำลังมีบทบาทสำคัญในการรักษามะเร็ง
.ทอง (Au)
เงิน (Ag)
ทองแดง (Cu)
คือธาตุในตารางธาตุที่เราเรียนกันสมัยมัธยม
ที่ถูกศึกษาและปรับใช้ในการรักษามะเร็ง
ซึ่งนำมาซึ่งความหวังใหม่ในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้
.แต่ๆ ธาตุพวกนี้ถูกศึกษาในรูปสารเคมี
ร่วมกับธาตุอื่นๆด้วย (complex)นะ
ไม่ได้ซื้อทอง ซื้อเงินเป็นสร้อยเป็นแหวนมาสวมหรือกินกันนะ ><
.ทอง และเงิน
สารประกอบของทองและเงินจะโจมตีเอนไซม์ทอปอยโซเมอเรส (topoisomerases) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแบ่งตัวของมะเร็ง งานวิจัยที่ดำเนินอยู่นี้มุ่งพัฒนาสารประกอบโลหะเหล่านี้ให้เป็นการบำบัดที่มีประสิทธิภาพและมีผลข้างเคียงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาแบบเดิมทองแดง
สารประกอบทองแดงกำลังเป็นทางเลือกที่มีพลังในการรักษาเคมีบำบัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเนื้องอกที่ดื้อต่อยาแพลตตินัม เช่น ซิสพลาติน (Cisplatin) สารประกอบเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง แต่ยังมีความเป็นพิษน้อยกว่า โดยบางชนิดได้เข้าสู่การทดลองทางคลินิกแล้ว
.
โลหะโอลิมปิกเหล่านี้กำลังก้าวออกจากเวทีและเข้าสู่ห้องแล็บ
อาจเปลี่ยนแปลงการรักษามะเร็งและนำความหวังใหม่มาสู่ผู้ป่วยทั่วโลก
.
ในบทความนี้กล่าวถึงแพลตตินัม (Platinum) ไว้ด้วย
ไว้บทความความหน้า แอดจะเล่าเรื่องแพลตตินัมให้ฟังกัน
ใบ้ไว้ก่อนเลยว่า
เป็นธาตุที่ใช้รักษามะเร็งเยอะมากๆๆๆ
มาอย่างยาวนานด้วย
.
อ้างอิง
[1] Copper, gold and silver compounds as potential new anti-tumor ... https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/21426151/
[2] A review of the latest developments in metal-based anticancer agents https://www.sciencedirect.com/.../abs/pii/S0010854523005684
[3] Gold, silver and copper complexes targeting human topoisomerases https://www.researchgate.net/.../338008415_From_coins_to...
[4] Metallo-Drugs in Cancer Therapy: Past, Present and Future - NCBI https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC9572156/
[5] Gold, silver and copper complexes targeting human topoisomerases https://www.sciencedirect.com/.../abs/pii/S0960894X19308832
.
#วิจัยมะเร็ง #นวัตกรรมทางการแพทย์ #ทอง #เงิน #ทองแดง #แพลตตินัม #การรักษามะเร็ง #วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต
#NoCancer
#NoCancerTH
#เพราะวิจัยมะเร็งนั้นลึกซึ้ง
#โอลิมปิก2024 #โอลิมปิกเกมส์ #โอลิมปิก #Olympics #olympics2024 #olympicgamesเขียนเมื่อ 12 ส.ค. 2024
-
Vibe Coding: When everything in coding is thrown to AI 🤖
"Vibe Coding: When everything in coding is thrown to AI." 🤖
That was the real eye-opener from yesterday's Sunday AI Webinar, where I got to hear from some super smart folks in AI, economics, and medicine.
What's Vibe Coding? 🤔
Basically, it's when you just tell AI to write your code or fix your errors. You know, like, just copy-pasting the error message and letting the AI do its thing. At first, it's awesome! Super fast, seems like a shortcut. But then, as one of the speakers, Dr. Piyalitt Ittichaiwong, pointed out,
you can end up feeling super bummed out.
Why? 'Cause you hit a bug and get stuck in this endless loop you can't get out of. And for real, that's exactly what happens! 😵💫I'm not even a proper coder myself – I actually studied pharmacy!
My first coding attempts were pretty messy, and I totally hit that "build it, break it, repeat" cycle. That's when I realized I needed to go back to square one.
Why Fundamentals Rule! ✨
Going back to basics was a game-changer. I learned that:
Coding is just about thinking step-by-step. The language (like Python or R) is just a tool; if you think logically, you can switch between them.
The real pro skill? Fixing bugs! 🛠️ Seriously, the more bugs you wrestle with and win, the more experience you rack up.
For computational biologist 🧬
And here's the kicker, especially for fields like computational biology. It's not just about debugging code itself. You really need to understand the biology behind it and work super closely with wet lab researchers. Without that deep biological insight and collaboration, even the best code won't give you meaningful answers when things go wrong. It's about combining coding know-how with domain expertise.
So, if you're thinking about learning to code from the ground up, I can't recommend Harvard's CS50 course with Professor David Malan enough. It's free, and it's seriously good stuff. I took it right before ChatGPT blew up, and yeah, I had moments where I thought, "Ugh, everyone's just vibe coding now, was this even worth it?" But honestly, I feel so incredibly lucky now that I did. That solid foundation helps me actually solve problems and think like a proper developer. Plus, it involved lots of dog petting when I got stuck, so win-win! 🐶😻
#NamthipPhDstory #VibeCoding #CodingJourney #CS50 #LearningToCode #Programming #AI #ChatGPT #ComputationalBiology #Debugging #TechTalk