- formatting
- images
- links
- math
- code
- blockquotes
- external-services
•
•
•
•
•
•
-
ใบสำคัญสำหรับหอบหืดวัยเรียน
สวัสดีค่ะทุกคน! 👋
วันนี้มิสมีเรื่องสำคัญมากๆๆๆ มาบอกต่อค่ะ! โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนมีเจ้าตัวเล็กเป็นหอบหืดแล้วกำลังจะไปโรงเรียน หรือเรียนอยู่แล้วเนี่ย ต้องอ่านให้จบเลยนะ! 📣
มิสแอบเห็นใบสำคัญจากคุณแม่น้องปิงมา
(ขอบคุณคุณแม่ที่อนุญาตให้แชร์นะคะ)
Unchulee Jimm
เรื่องนี้แหละ คือหัวใจอย่างนึง
ของการดูแลน้องๆ เลยค่ะ!
ยาพ่นฉุกเฉินในโรงเรียน: คุณครูรู้...น้องปลอดภัย! 💖
เวลาลูกๆ เรามีอาการหอบหืดกำเริบที่โรงเรียน #ยาพ่นฉุกเฉิน เนี่ยแหละคือฮีโร่ตัวจริง!
แต่แค่มีอย่างเดียวไม่พอแล้วนะคะ!
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ...
✨ คนที่ดูแลน้องที่โรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นคุณครูประจำชั้น คุณครูเวร หรือพยาบาลโรงเรียน ต้องรู้และเข้าใจวิธีใช้ยาพ่นฉุกเฉินนี้ด้วยนะคะ! ✨
เหมือนเคสของน้องปิงในรูปเลยค่ะ ที่คุณแม่เขียนไว้ชัดเจนเลยว่าน้องปิงใช้ที่บ้านเป็นแล้ว และขอขอบคุณคุณครูที่ช่วยดูแล 🥺 นี่แหละคือความร่วมมือที่สำคัญที่สุดค่ะ!
และนี่คือ 2 สิ่งที่ #ห้ามลืมเด็ดขาด เลยนะคะ!
* เช็ควันหมดอายุ! 📆 คุณพ่อคุณแม่ต้องเช็คเป็นประจำนะคะว่ายาพ่นยังไม่หมดอายุรึเปล่า? บางทีซื้อมานานแล้วลืมเช็คเนี่ย อันตรายมากๆ เลยค่ะ! ยาหมดอายุมันจะใช้ไม่ได้ผลนะคะ!
* ชวนคุณครูมาลองฝึกใช้! 👩🏫 ไม่ต้องกังวลเลยนะคะ! ลองบอกคุณครูเลยว่า 'คุณครูคะ หนู/ผมขอรบกวนคุณครูลองถือ ลองกด ลองทำท่าใช้ยาพ่นอันนี้หน่อยได้ไหมคะ/ครับ' เพื่อให้คุณครูคุ้นมือ จะได้ไม่ลนลานเวลาฉุกเฉินจริงๆ ค่ะ! (และอย่าลืมบอกจำนวนครั้งที่ต้องพ่นตามคำแนะนำของคุณหมอด้วยนะคะ เหมือนที่ในรูปน้องปิงบอกว่า 'หากอาการไม่ดีขึ้น ให้พ่นซ้ำได้อีกกี่ครั้ง')
จำไว้นะคะ... ยาจะช่วยได้ก็ต่อเมื่อคนที่ดูแลน้องใช้เป็น! การเตรียมตัวล่วงหน้าคือสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ!
บ้านไหนมีเคล็ดลับดีๆ ในการเตรียมยาพ่นฉุกเฉินให้ลูกที่โรงเรียน หรือมีประสบการณ์อยากแชร์ มาคอมเมนต์บอกกันหน่อยน้าาาา! 💬
#หอบหืดไม่หอบใจ #ยาพ่นฉุกเฉิน #หอบหืดในเด็ก #โรงเรียนปลอดภัย #MissAsthmaTH #รู้ทันหอบหืด #หายใจคล่องชีวิตปัง
-
โกโกวาสั่ง เซลล์มะเร็งก็ต้องเผ่นแล้ววว (Ep.2)
“โกโกวาสั่ง เซลล์มะเร็งก็ต้องเผ่นแล้ววว”Ep.2 มาแล้ววววว.เซลล์ไม่ได้มีขาเหมือนคนนี่นา? วิ่งได้เหรอแล้วจะวิ่งเพื่ออะไร?มะเร็งเป็นที่ตรงไหนก็ตรงนั้นหรือเปล่า.เคยได้ยินเรื่องมะเร็งกระจายไปอวัยวะอื่น (Metastasis) กันบ้างใช่มั้ยเฮ้ยยย มะเร็งมันวิ่งตรงดิ่งไปอีกอวัยวะเลยเหรอ??ใจเย็นทุกคนนนน.เซลล์มะเร็งเคลื่อนที่จากอวัยวะนึงไปอรกที่นึงได้แต่ๆ มีกระบวนการของมันอยู่หลายขั้นตอนเลยหล่ะ(แปะรูปในเม้น).นึกภาพตามแอดนะทุกคน1. เซลล์มะเร็งเนี่ยมันต้องเคลื่อนย้ายมันออกจากอวัยวะเริ่มต้นก่อน2. เคลื่อนออกไปแล้วต้องมุดเข้าหลอดเลือด3. มันอาศัยหลอดเลือดนี่แหละไปลั้ลลาๆทั่วร่างเรา4. มันต้องมุดออกจากเส้นเลือดเข้าสู่อวัยวะที่ 2ด้วย.โอ้โห ไม่ง่ายเลยนะเนี่ยการที่เซลล์มะเร็งจะกระจายไปอวัยวะอื่น.นักวิจัยเราก็มีวิธีพิสูจน์ว่าเซลล์มะเร็งจะเคลื่อนที่ได้ ไปยังอวัยวะอื่นได้โดยหลายวิธีทดสอบเลย.วันนี้แอดจะมาเล่าวิธีนึงให้ฟังกัน (รูปในเม้นนะ)นั่นคือ ดูเซลล์อพยพ หรือดูเซลล์มะเร็งวิ่งนั่นเอง (Migration assay).โดยการเลี้ยงเจ้าเซลล์มะเร็งนี่แหละแล้วขูดเอาตรงที่อยู่ตรงกลางแผ่นเลี้ยงออกตรงช่องที่เราขูดเนี่ยถ้าเซลล์มะเร็งมันเคลื่อนที่ได้มันจะขยับๆออกมาอยู่ตรงกลางช่อง.มันมีขา? เหรอเซลล์มะเร็งหน่ะ มันมีสิ่งที่เสมือนขาคือพวกโครงสร้างแข็งๆในเซลล์ใช้เพื่อขยับเขยื้อน กระดึ๊บๆ ไปเรื่อยๆได้.ถึงรู้กันอยู่แล้วว่ามะเร็งมันกระจายไปอวัยวะอื่นได้แล้วจะทดสอบทำไมอีกนะ.นักวิจัยทำเพื่อหายาเพื่อมาหยุดยั้งการเเพร่กระจายของมะเร็งนี่แหละยังมีองค์ความรู้อีกมากโขเลยยยยที่ยังขาดหายไปเพื่อให้เข้าใจโรคมะเร็งมากขึ้น -
น้องกุมารโกโกวากับน้ำแดงของนาง (Ep.1)
รอ Squid Game กันอยู่ใช่มั้ย~~มาพบกับCancer Game
กันก่อนดีกว่า.Ep.1 น้องกุมารโกโกวากับน้ำแดงของนาง
น้ำแดงนี้คืออะไรเลือดผู้เข้าแข่งขันหรือเปล่า.แต่สำหรับมะเร็งน้ำแดงนี้คืออาหารเลี้ยงเซลล์คือปกติเราไม่ได้ใช้แฟนต้าหรือมิรินด้ามาให้เซลล์มะเร็งซดนะทุกคน.ที่จริงแล้วสิ่งที่มะเร็งกินก็คือสิ่งหล่อเลี้ยงเซลล์ทุกเซลล์ในตัวเรานั่นแหละทุกคนคงคิดถึงเลือดแน่ๆ.เราเลี้ยงเซลล์มะเร็งในจานเลี้ยงโดยพยายามจำลองให้เหมือนร่างกายมาที่สุดแต่ !!! แดดงๆนั่นไม่ใช่เลือดดดด.ปกติอาหารเลี้ยงเซลล์นี่ใสๆ เลยส่วนประกอบหลักๆที่ฮิตที่สุดคือซีรั่มและอื่นๆอีกมากมาย ดูภาพต่อในเม้นนะ.ที่เป็นสีคือสีชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของอาหาร(pH indicator)เอาไว้ดูว่าเซลล์มะเร็งกินหมดหรือยังกินไปแล้วมากหรือน้อยถ้าอาหารเหลือน้อย ของเสียมากขึ้นสีแดงๆก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มและเหลืองตามลำดับคือสีเหมือนฉี่ไปอีก 55555.เพราะงั้นเซลล์มะเร็งไม่ได้กินแฟนต้านะทุกคนนั่นคืออาหารเลี้ยงเซลล์ตอนต่อไป ep.2มะเร็งกระโดเชือก เวอร์ชั่นเส้าหลินมันคืออะไรไปลุ้นกันนนนน -
แผนปฏิบัติการหอบหืดคืออะไร ทำไมทุกคนควรมี
รอบนี้มิสได้ "แผนปฏิบัติการหอบหืด" กลับบ้านมาด้วยหล่ะ
ไว้โพสหน้าเอามาให้ดูกันนนว่าหน้าเป็นยังไง
จะเป็นยาหลวง ยาผีบอก หรืออะไรกันน๊าาาา
===============
"แผนปฏิบัติการหอบหืด" (Asthma Action Plan) เนี่ย มันสำคัญม๊ากมากกกกก!ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว แต่มันคือ คู่มือช่วยชีวิต ของพวกเราเลยนะ! ทำไมถึงสำคัญอะเหรอ? มาดูกัน!
===============
ทำไมต้องมีแผนหอบหืดติดตัว?
เหมือนมีพี่เลี้ยงส่วนตัว!: แผนนี้แหละจะบอกหมดเลยว่าต้องทำยังไงทีละสเต็ปเวลาอาการหอบหืดกำเริบ! ทำให้เรารู้สึกว่า เราคุมอาการได้ ไม่ใช่ให้โรคมาคุมเราอีกต่อไป! สบายใจขึ้นเยอะเลย!
ไหวตัวทันก่อนเรื่องใหญ่!: เจ้าแผนนี้จะช่วยให้เรารู้ สัญญาณเตือน ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะ! จะได้รีบจัดการทันที ก่อนที่อาการจะหนักจนต้องวิ่งโร่ไปโรงพยาบาล! ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยเลย!
ลดดราม่าห้องฉุกเฉิน!: พอทำตามแผนเป๊ะๆ อาการกำเริบก็จะเบาลง หรือบางทีก็ไม่เกิดเลย! ทำให้เรา ไม่ต้องเข้าห้องฉุกเฉินบ่อยๆ ไง ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย แถมไม่ต้องเครียดด้วย!
ชีวิตแฮปปี้ขึ้นเยอะ!: พอคุมอาการได้ดีขึ้น ก็แปลว่าเราจะ ไม่ต้องขาดเรียน ขาดงานบ่อยๆ อยากไปเที่ยว อยากทำกิจกรรมอะไรก็ทำได้เต็มที่! ใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปเลย ฟินจะตาย!
คนรอบข้างก็เข้าใจ!: เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ แผนนี้จะช่วยให้ ครอบครัว เพื่อน พยาบาล หรือคุณหมอ ก็รู้ได้ทันทีว่าต้องช่วยยังไง ไม่ต้องนั่งงง หรือกังวลว่าต้องทำอะไรดี! คือดีมากๆ!
เพื่อเราคนเดียวเลยนะ!: ที่สำคัญคือแผนนี้เค้าไม่ได้ทำมาแบบหว่านแหนะ! แต่ ปรับให้เข้ากับอาการ ยา และสิ่งกระตุ้นของแต่ละคนโดยเฉพาะ! เป็นของเราจริงๆ ไม่ซ้ำใคร!
ใครที่ยังไม่มีแผนปฏิบัติการหอบหืด หรือมีแล้วแต่อยากอัปเดต ลองคุยกับคุณหมอดูนะ! มันช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะจริงๆ เลย!
#หอบหืดไม่หอบใจ #สู้กับหอบหืด #หายใจคล่องชีวิตปัง
#เรื่องหอบหืดต้องรู้ #เคล็ดลับดูแลหอบหืด
#คนเป็นหอบหืดเข้าใจดี #แชร์ประสบการณ์หอบหืด
#MissAsthmaTH -
Namthip x งานวิจัยมะเร็ง ตอนที่ 7
ถ้าเธอติ่ง GOT7 ฉันก็คงติ่งนักวิทยาศาสตร์
.
รูปนี้เป็นงานประชุมเมื่อปลายมีนาที่ผ่าน
ซึ่งฉันอยู่ในรูป? เปล่าเลยยยย เข้าแบบออนไลน์แงงงง
แต่เป็นงานที่ฟินมาก เหมือนนักวิทยาศาสตร์รุ่นเก๋ามารวมตัวกัน
เหมือนไปฟังคุณปู่ คุณตาเล่าเรื่อง
ดีดไม่ต้องหลับต้องนอนกันไปเลย
.
ในความกรี๊ดกร๊าดในผลงานว่า “เค้าค้นพบอะไร”
สิ่งที่น่าทึ่งกว่าคือ “คิดมาได้ไง”
.
ถ้าถามว่าอยากได้อะไรที่สุดในการเรียน ป เอก
คำตอบอย่างเดียวเลย “เป็น Philosopehr”
หรือง่ายๆก็คือ “Thinker”
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มาง่ายๆแฮะ
.
วิธีคิดทางวิทยาศาตร์เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดอย่างนึง
เราเองพร่ำถามคำถามนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มรู้จักวิทยาศาสตร์
เริ่มตั้งแต่ตอนมีข่าวนักวิจัยหญิงจากญี่ปุ่นคนนึง
ตอนนั้นดังมากใช้ชุดเมดเป็นชุดแลปเก๋ๆ
แต่สุดท้ายก็มีข่าวออกมาว่างานนั้นลวงโลก
PI ฆ่าตัวตาย แถมด้วยนักวิจัยคนนั้นผันตัวเข้าวงการ AV
.
ตอนเรียน ป เอก อาจารย์ที่ปรึกษา
เคยตีพิมพ์ Nature Letter
ก็สงสัยมาตลอดว่า อาจารย์ทำยังไงถึงคิดได้อย่างนี้
ตอนนั้นพอมีช่วงว่าง ถึงขั้นปริ้นเปเปอร์ของ อ ทั้งหมดมาอ่าน
เป็นรีมเลย แต่สุดท้ายก็ยังหาคำตอบไม่ได้อยู่ดี
.
วิธีคิดทางวิทยาศาสตร์มันซับซ้อน
และแตกต่างจากกระบวนอย่างชัดเจนของตัวมันอยู่มาก
ทั้งที่เราวางแผนการทดลองอย่างเป็นเหตุเป็นผล
มีลำดับขั้นที่ชัดเจนราวกับช่วงที่มีแสงส่องทางอย่าง DAY SCIENCE
แต่ลำดับความคิดนั้นกว่าจะตกผลึกได้
กลับเต็มไปด้วยความสับสน ลังเล
หมุนวนอยู่ในหัวตลอดทั้งคืนหรือ NIGHT SCIENCE
.
Night Science ถูกพูดถึงครั้งแรกโดย François Jacob (Noble 1965)
และถูกขุดขึ้นมาอีกครั้งโดย Itai Yanai และเพื่อน
เค้ามี podcast ที่เชิญนักวิจัยดังๆมาคุยเรื่องนี้ด้วยนะ
แต่เรื่องการคิดมันซับซ้อนเกินกว่าจะเรียกว่า How to
.
สิ่งหนึ่งที่พัฒนากระบวนการคิดได้มาก
ก็คือการแก้ปัญหาจริงๆ นั่นก็คือทำวิจัยนั่นแหละ
และที่สำคัญคือทิศทางการวิจัย
ซึ่งเรื่องนี้ scientific lineage สำคัญมาก
(เคยเขียนไว้ในบทความก่อนๆ)
.
การจะคิดได้ดูเหมือนจะซับซ้อน
การได้กระทบไหล่ ฟังผลงาน มีโอกาสถามคำถาม
คือสิ่งที่กระตุกต่อมคิดได้ชั้นเลิศ
เอาทุกอย่างกลับมายำรวมกัน (แบบมีหลักการ)
แล้วใช้จริงกับงานวิจัยตรงหน้า
.
การได้ฟังเรื่องเล่า รู้จักการค้นพบ
ได้เล่ามันออกจากความที่ว่าเราอินจริงๆ
เหมือนที่อาจารย์ปรึกษาชอบทำ 5555
มันคือการสร้างแรงบันดาลใจอย่างนึง
.
มีคำกล่าวว่า
ครูที่ดีสอน
ครูที่ดีขึ้น ยกตัวอย่าง
สุดยอดครู สร้างแรงบันดาลใจ
.
คงจะดีกว่าเมากันในวงการวิทย์คือ
เล่าให้คนนอกวงการฟังแล้วเค้าฟินไปด้วย
ถ้าได้ไปฟังเจ้าของรางวัลโนเบลตัวเป็นๆ
คงจะฟินมาก คงจะเตรียมตัวโดยขุดอ่าน
งานของเค้าจนตาเปียกตาแฉะ
รวมไปถึงบริบทการค้นพบ สิ่งที่ขาด
สิ่งที่การค้นพบนี้าเติมเต็ม
.
และนี่คือที่มาของการสมัครงานประชุมลินเดา
เยอรมันจะเรียกหามั้ยไม่รู้
รู้แต่หัดภาษาเยอรมันมาสักพักละ 5555
ภาพจาก Cancer Genetics: History and Consequences
จัดโดย Cold Spring Harbor Laboratory
.
ตอนอื่นๆ ของการบุกดงวิจัยที่เคยเขียนไว้- ตอนที่ 0: สะเปะสะปะกว่าจะมาถึงเส้นทางวิจัย
- ตอนที่ 1: ค่ายไม่เล็กที่มีแต่ผู้ใหญ่ใจดีปูทางเด็กบ้านนอกสู่เส้นทางวิจัย
- ตอนที่ 2: ตรึงใจเด็ก ม.ปลาย เปิดโลกวิจัยที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
- ตอนที่ 3: ตะลุยดงวิจัย ทำไมวิจัยมีมะเร็งมีหลายแบบจัง
- ตอนที่ 4: รู้จักมะเร็งแบบเหนือชั้น เหนือพันธุกรรมคืออะไร
- ตอนที่ 5: เมื่อฉันรักวิทยาศาสตร์ อย่างที่ไม่สนมะรงมะเร็งอะไรทั้งนั้น